อันตรายจากการตัดเชื่อมหน้างาน
การเชื่อม หรือ การตัดโลหะ เป็นงานที่จำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการก่อสร้างอาคาร ร้านค้า ป้ายโฆษณา รวมถึงโครงสร้างต่างๆที่เราพบเห็นกันอยู่ทุกวัน ทั้งนี้ก็เพื่อตัดโลหะออกจากกัน หรือ เพื่อยึดติดโลหะเข้าด้วยกันให้แน่นแข็งแรง ซึ่งในการเชื่อม/ตัดโลหะจะก่อให้เกิดมลพิษทางสภาพแวดล้อมในการทำงานประเภทต่างๆ มากมาย ต่อตัวผู้ปฏิบัติงานโดยตรง จึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ในงานเชื่อม
ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมด้วยไฟฟ้า หรือแก๊ซ ล้วนก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งอาจจะทำให้เสียชีวิตทันทีหากได้รับอันตรายจากไฟฟ้าดูด หรือการระเบิด และยังส่งผลต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดโรคจากการทำงาน เนื่องจากแสง หรือ รังสี ตลอดจนฟูมของโลหะซึ่งมีผลโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจ ก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง รักษาไม่หายขาดเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ในระยะเวลาไม่กี่ปี หากไม่มีการป้องกันอย่างถูกต้อง
อันตรายจากแสงจากการเชื่อม
แสงจ้าจากการเชื่อมเป็นอันตรายต่อดวงตาและอาจทำให้ผิวหนังไหม้ได้รังสีในห้องเชื่อมที่เป็นอันตรายจะอยู่ในช่วงความถี่ตามองไม่เห็น คือช่องรังสีใต้แดง (infrared) และรังสีเหนือม่วง คือ
รังสีที่เกิดจากการเชื่อม มีผล อย่างไร กับ ตา รังสีทั้งสองชนิดนี้ทำให้เกิดอันตรายต่อสายตาและผิวหนังได้อย่างรุนแรง คือ ดวงตาระคายเคืองถึงกับอักเสบและน้ำตาไหล ผิวหนังส่วนที่ได้รับรังสีจะเป็นเหตุให้ผิวไหม้และรู้สึกปวดแสบปวดร้อนเป็นเวลา 24 – 48 ชั่วโมงขึ้นไป ยาวนานตามระยะเวลาที่ได้รับรังสีนั้น ๆ ก๊าซบางชนิด เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ จะสามารถกรองและดูดซับรังสีนี้ได้มาก แต่ในทางตรงกันข้าม อาร์กอนจะไม่มีผลต่อการลดความเข้มของรังสีเหนือม่วง
รังสีเหนือม่วง คือ รังสีอัลตราไวโอเลต หรือ รังสียูวี (อังกฤษ: ultraviolet) หรือในชื่อภาษาไทยว่า รังสีเหนือม่วง เป็นช่วงหนึ่งของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่าแสงที่มองเห็น แต่ยาวกว่ารังสีเอกซ์อย่างอ่อน มีความยาวคลื่นในช่วง 100-400 นาโนเมตร และมีพลังงานในช่วง 3-124 eV ประกอบด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่สูงกว่าคลื่นที่มนุษย์มองเห็นเป็นสีม่วง
อันตรายจากไฟฟ้าดูด
ระบบไฟฟ้าในการเชื่อมชนิดเชื่อมไฟฟ้า จะเริ่มจากแหล่งจ่ายไฟและจบลงที่สายดิน กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านสู่ชิ้นงาน กระแสที่มีประจุตรงกันข้ามจะไหลในทิศทางกลับกัน กระแสไฟฟ้าจะต้องไหลลงสู่ดินเพื่อให้วงจรสมบูรณ์ และในการไหลลงสู่ดินนี้กระแสไฟฟ้า จะเลือกทางเดินที่สะดวกที่สุดเสมอ
รังสีทั้งสองชนิดนี้ทำให้เกิดอันตรายต่อสายตาและผิวหนังได้อย่างรุนแรง คือ ดวงตาระคายเคืองถึงกับอักเสบและน้ำตาไหล ผิวหนังส่วนที่ได้รับรังสีจะเป็นเหตุให้ผิวไหม้และรู้สึกปวดแสบปวดร้อนเป็นเวลา 24 – 48 ชั่วโมงขึ้นไป ยาวนานตามระยะเวลาที่ได้รับรังสีนั้น ๆ ก๊าซบางชนิด เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ จะสามารถกรองและดูดซับรังสีนี้ได้มาก แต่ในทางตรงกันข้าม อาร์กอนจะไม่มีผลต่อการลดความเข้มของรังสีเหนือม่วง
อันตรายจากฟูม (FUME)
และก๊าซที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ฟูม (Fume) เป็นอนุภาคของแข็งที่เกิดขึ้นจากการควบแน่นของสารที่อยู่ในสถานะที่เป็นก๊าซ โดยทั่วไปสารนั้นๆ จะอยู่ในสถานะของแข็งที่อุณหภูมิห้อง เมื่อได้รับความร้อนก็จะระเหยและจะควบแน่นทันที ตัวอย่างฟูมที่พบในการทำงาน ได้แก่ ฟูมของตะกั่วออกไซด์ ฟูมของเหล็กออกไซด์ฯลฯ มนุษย์ได้เรียนรู้วิธีการเชื่อมมานานแล้ว
แต่ไม่ค่อยได้ตระหนักถึงอันตรายของฟูมและก๊าซที่เกิดขึ้นในงานเชื่อมสักเท่าไร การศึกษาในประเภทนี้เพิ่งจะเริ่มขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1970-1980 เท่านั้น จากการวิเคราะห์พบว่าสารเหล่านี้มีส่วนประกอบของโลหะออกไซด์และสารที่เคลือบบนลวดเชื่อม ซึ่งสารเหล่านี้จะปะปนอยู่ในอากาศที่ใช้ในการหายใจและอาจผ่านเข้าสู่ปอดได้ พัดลมดูดอากาศสามารถใช้เพื่อกำจัดฟูมเหล่านี้ออกจากบริเวณทำงานได้ แต่ควรระวังอย่างให้ฟูมเหล่านี้หมุนเวียนเข้ามาสู่บริเวณหายใจ
อันตรายจากการลุกไหม้ และการระเบิด
อาจเกิดขึ้นได้ในขณะทำการเชื่อม ถ้าไม่หาวิธีควบคุม และป้องกันอันตรายที่ดีพอ การเชื่อมแบบต่างๆ ย่อมทําให้เกิดประกายไฟ และสะเก็ดไฟกระเด็น ซึ่งเป็นจุดให้เกิดไฟไหม้และการระเบิดได้ ถ้าไม่หาทางป้องกันไว้ก่อน ดังนั้นจึงต้องมีอุปกรณ์ในการดับเพลิงวางไว้ใกล้กับบริเวณที่ทำการเชื่อม หรือจัดให้มีผู้สังเกตุการณ์เฝ้าระวังไฟไหม้
อันตรายที่เกิดจากการทำความสะอาดรอยเชื่อม
หลังเลิกงาน ภายหลังการเชื่อมเสร็จแล้ว จะต้องเคาะเอาสะแลค (ภาษาช่างจะเรียกว่าขี้เชื่อม) ออก หรือการเจียร เพื่อตกแต่งรอยเชื่อม กิจกรรมเหล่านิ้อาจทำให้เศษโลหะกระเด็นเข้าตาได้หากไม่ใส่แว่นนิรภัยป้องกันดวงตา รวมไปถึงสุขอนามัยส่วนบุคคล
ทุกคนได้รู้กันแล้วใช่มั้ยครับ ว่าอันตรายจากการตัดเชื่อมหน้างานนั้นมีมากมายหลายสาเหตุ ความปลอดภัย ในงานเชื่อมจึงเป็นสิ่งที่มองความไม่ได้ บางทีอาจจะมาจากสาเหตุเล็กๆ แต่สามารถทำให้เกิดเรื่องใหญ่ได้เลยครับ เพราะฉนั้นเราจึงควรป้องกันเหตุเหล่านี้ให้ดี อย่าประมาทเพราะเห็นเป็นเรื่องไกลตัว มิเช่นนั้นอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจนทำให้เราเสียใจภายหลังได้นะครับ