ผลกระทบของรังสีอินฟาเรด
ผลกระทบต่อคน
- สามารถทำลายชั้นผิวหนังได้ลึกในระดับเซลล์
- ทำให้ผิวหมองคล้ำริ้วรอยต่างๆ
- และอาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้
ผลกระทบต่อสิ่งของ เช่น รถยนต์
- ช่วงหน้าร้อน ตอนเที่ยงๆ เมื่อความร้อนที่สะสมอยู่ในภายในรถ เมื่อเข้ามาในรถแล้ว เอาจริงนี่แทบจะเป็นลมกันทีเดียว การเปิดแอร์แล้วเร่งให้แรงสุดหลังจากสตาร์ทรถ เป็นผลให้แอร์ทำงานหนัก และอาจจะส่งผลไปถึงการรั่วไหลของข้อต่อต่างๆของระบบท่อแอร์อีกด้วย
- เครื่องยนต์มีความร้อนจัดทำให้อายุการใช้งานสั้นลง
- อุปกรณ์ที่เป็นยาง เช่น ขอบกระจกยางปัดน้ำฝน จะมีความแข็งกระด้างและขาดความยืดหยุ่น ทำให้เสื่อมสภาพไปอย่างรวดเร็วก่อนเวลาอันควร
- สีของตัวรถจะซีดเร็ว เห็นได้ชัดโดยเฉพาะรถสีขาว สังเกตได้ว่าสีจะออกเหลืองๆ ถ้าเป็นรถสีเข้ม สีจะจางลง
- ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพเร็วกว่าอายุการใช้งานจริงสังเกตได้ง่ายๆ คือสีของฟิล์มจะออกสีม่วงๆ
- ชิ้นส่วนภายในห้องโดยสาร เช่นคอนโซล พวงมาลัย จะเสื่อมสภาพเร็วกว่าเดิม เบาะรถถ้าเป็นแบบหนังจะแห้งกรอบ ถ้าเป็นเบาะผ้าสีก็จะซีด
- สภาพอากาศที่ร้อนกลายเป็นตัวบั่นทอนการทำงานของสารเหลวหล่อลื่นหรือน้ำมันเครื่อง ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ เมื่อหมดสภาพไม่สามารถหล่อลื่นเครื่องยนต์ได้อีกอาจถึงกับทำให้เครื่องพังได้
- อุณหภูมิที่ร้อนจัดอาจทำให้ยางรถยนต์เสียหายได้ ความร้อนสร้างความตึงเครียดยางมากกว่าปกติ โดยเฉพาะยางเก่าต้องระวังเรื่องของยางระเบิด เนื่องจากสภาพยางที่ไม่ค่อยดี และเมื่อขับรถเป็นระยะเวลานานๆติดต่อกันในพื้นที่อุณหภูมิสูงด้วยแล้ว ยิ่งต้องระวังให้ดี
- การระเหยของสารที่เป็นของเหลวภายในรถเนื่องจากโดนความร้อน อาจจะส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจได้
- เมื่อสภาพอากาศร้อนจัดบวกกับการระบายความร้อนของรถยนต์ไม่ดีพอ ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติจนเกิดอาการบวมจนสังเกตได้ ส่งผลให้รถสตาร์ทไม่ติด มักพบบ่อยในแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่นมากกว่าแบบแห้ง
ผลกระทบของ รังยูวี UV
ผลกระทบต่อคน
- กระจกตาอักเสบ
- มะเร็งผิวหนัง
- โรคต้อกระจกและโรคต้อเนื้อ
- ผิวหนังไหม้จากแสงแดดเผา
- ผิวเหี่ยวย่นก่อนวัย
- ผิวมีกระแดด และ ฝ้า
- เซลล์เม็ดเลือดขาวถูกทำลาย
- ผิวหนังเหี่ยวย่น เป็นฝ้า กระ และจุดด่างด
ผลกระทบต่อสิ่งของ เช่น รถยนต์
- “สี” ของรถ เป็นสิ่งแรกที่แสงแดดจะทำร้าย การที่เราจอดรถเอาไว้กลางแดดไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือคาดไม่ถึงก็ตาม บริเวณที่รับแสงแดดเต็ม ๆ จะถูกความร้อนทำลายเคลือบสี ทำให้สีไม่สม่ำเสมอ ซีดลงจากเดิม และไม่ว่าที่ใดที่แสงส่องถึงก็จะถูกทำลาย ไม่เว้นแม้แต่ในห้องโดยสาร
- อุปกรณ์ที่เป็นยาง ไม่ว่าจะเป็นขอบกระจกหรือที่ปัดน้ำฝน วัสดุที่เป็นยางไม่ถูกโฉลกกับ “ความร้อน” เป็นอย่างยิ่ง การปล่อยให้อุปกรณ์ที่ทำจากยางโดนความร้อนเป็นเวลานาน จะทำให้อุปกรณ์นั้นเสื่อมสภาพ สิ้นอายุการใช้งานเร็วกว่าปกติ
- เบาะหนัง รถยนต์โดยส่วนใหญ่มักใช้เบาะที่ทำจากหนัง เพราะมันช่วยเสริมให้รถของเรา “ดูดี”
- ความร้อนจะทำให้หนังที่หุ้มตัวเบาะแห้งกรอบและมีโอกาสปริแตก หากปล่อยไว้ไม่ดูแลจากเบาะหนังสวยหรูดูมีคลาส คงได้กลายร่างเป็นวัตถุโบราณที่เตรียมส่งเข้าพิพิธภัณฑ์แท
- แผงคอนโซล นอกจากจะถูกแดดเลียจนสีซีดแล้วภายใต้แผงคอนโซลคืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ก็ไม่ได้ชื่นชอบความร้อนและแสงแดดเท่าไรนัก คุณคงไม่อยากเปลี่ยนอุปกรณ์เหล่านี้โดยไม่จำเป็นเพราะราคาของมันก็ไม่ได้ถูกเลย
- แอร์ ภายใต้ความร้อนสิ่งที่ต้องพยายามเอาชนะอุณหภูมิที่ร้อนแรง ไม่ให้ห้องโดยสารต้องกลายเป็นฃเตาอบนั้นก็คือแอร์ ในวันที่แดดจ้า แอร์ในรถของคุณจะต้องทำงานหนักขนาดไหนและหากต้องทำงานหนักบ่อย ๆ อายุการใช้งานก็จะสั้นลง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : tipauto.co.th
SHINKOLITE รุ่นไหน กัน UV และ Infrared
จริงๆ แล้วทาง SHINKOLITE จะมีอยู่ 5 series* ด้วยกันคือ
- รุ่น PRIME
- รุ่น NATURE
- รุ่น HEAT CUT
- รุ่น SUPERIOR
- รุ่น SHADE
*สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ –> https://bit.ly/43RqPdN
เจาะลึก SHINKOLITE 3 รุ่นยอดนิยม
HEAT CUT SERIES > กัน UV และ Infrared
รุ่นนี้บอกตรงๆ ว่าคือตัว TOP ใครชอบแบบโปร่งๆ ต้องรุ่นนี้ โดยจะมี 4 สีให้เลือก คือ
- HC-B703 : สีน้ำเงิน / หนา 6 มม. / แสงผ่าน 23% / กันความร้อน 48%
- HC-N590 : สีเขียว / หนา 6 มม. / แสงผ่าน 19% / กันความร้อน 59%
- HC-570 : สีน้ำตาล / หนา 6 มม. / แสงผ่าน 29% / กันความร้อน 56%
- HC-N828 : สีเทา / หนา 6 มม. / แสงผ่าน 15% / กันความร้อน 58%
ส่วนสีที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ สีเทา N828 น่าจะเป็นเพราะว่า บ้านสมัยใหม่ มีโทนสีเทาเป็นสีหลักในการออกแบบก็เป็นได้
ข้อดีของรุ่น Heat Cut คือ
- ผิวเรียบมันเงา รูปลักษณ์ทันสมัย สวยงาม
- ไร้ปัญหากรอบแตก สีเหลือง ซีดจาง สีหลุดลอกร่อน นานกว่า 10 ปี
- น้ำหนักเบากว่ากระจกครึ่งหนึ่ง
- เป็นแผ่นตันจึงหมดปัญหาเชื้อรา น้ำเข้า ตะไคร่น้ำ และเสียงดังเวลาฝนตก
- ปลอดภัย เวลาแตกไม่คมเป็นปากฉลาม
- มีความยืดหยุ่น ดัดโค้งตามโครงได้
- ดัด ตัด ง่าย
- ทนแรงกระแทกได้ดีกว่ากระจก (ที่ความหนาเสมอกัน)
- กันความร้อนจากรังสีอินฟาเรดได้กว่า 50 %
- กัน UV และเป็นนวัตกรรมจากประเทศญี่ปุ่น
บอกเลยว่า ข้อดีเยอะเหมือนเว่อร์ แต่เรื่องจริงนะบอกเลย
เอาเป็นว่า ถ้าใครชอบแนวเห็นท้องฟ้า ดูปลอดโปร่ง โล่งสบายตา แถมกันร้อนดีที่สุดที่มีในตลาดแล้วล่ะก็ จัด Heat Cut ไป ไม่ผิดหลังแน่นอน!
SUPERIOR SERIES > กัน UV
รุ่นซุพีเรียร์ มี 4 รุ่นย่อยนะ โดยจุดสังเกตุของรุ่นที่เลือกมา คือ จะเป็นลักษณะกระจกฝ้า ระดับเม็ดละเอียดสุดในโลกที่มี คือนัวมาก ดูละมุนตาไปอีกขั้น แถมกระจายแสงได้ดี แต่ไม่ร้อนซะงั้น เทพมาก คิดได้ไง บอกเลยว่าสวยเกิน💯นะ ไม่ได้เว่อร์
- SP-NB00 : “สีขาวๆ นัวๆ ละมุนๆ” แนวกระจกพ่นทรายละเอียดยิบ ปริมาณแสงส่องผ่าน 50% ส่วนตัวแล้วชอบมากถึงมากที่สุด เพราะติดตั้งเสร็จแล้ว เมื่อมองย้อนแสงจากใต้หลังคา เราจะเห็นแสงกระจายตัว ดูนัว ดูละมุนสุดๆ เรียบหรู มีสไตล์แบบข้างบ้านต้องแอบมองทุกวัน
- SP-NB30 : ภาพรวมเหมือนตัว NB00 เลยครับ แต่ “สีจะออกน้ำตาลฝ้า” และปริมาณแสงส่องผ่าน 45% ดูมีความคอนเทมโพรารี่ขึ้นไปอีก เหมาะกับบ้านที่มีโทนสีน้ำตาล ครีม หรือแนวสี Earth tone มั๊กๆ
- SP-B857 : ไม่ใช่รหัสเรือดำน้ำแต่อย่างใด แต่เป็นรุ่นที่มีความธรรมชาติขึ้นไปอีก เพราะสีจะออกแนว “-สีฟ้าน้ำทะเลฝ้า” ปริมาณแสงส่องผ่านแค่ 26% ทำให้เย็นขึ้นไปอีก เหมาะกับบ้านที่มีกระจกหน้าต่างเป็นสีเขียวตัดแสง มีต้นไม่เยอะๆ จะดูกลืนกับธรรมชาติมากขอบอก Living in Nature🌳 เลยงานนี้
- SP-NC95 : จริงๆ แล้ว สีนี้จะออกสีน้ำตาลเหมือนรุ่น NB30 แต่จะเป็นแบบโปร่งใส มองเห็นก้อนเมฆเลยครับ แต่ปริมาณแสงจะส่งผ่านมากกว่าอยู่ที่ 70%
รุ่น SUPERIOR เหมาะกับใคร?
คนที่ไม่ชอบอะไรที่ดูทึบๆ อึดอัดๆ แสงผ่านเล็กน้อย ทำให้การต่อเติมไม่มืดทึบ
อยากรู้สึกฟีลท้องฟ้า แต่ก็ไม่ถึงกับแบบเห็นก้อนเมฆหรือดวงอาทิตย์เบอร์นั้น
ชอบแนวมินิมอลๆ ดูละมุนๆ เรียบง่าย แต่ดูแพง! หรูเบอร์ 10 ในราคาเบอร์ 5
ดูแลรักษาง่าย ติดทีเดียวใช้ยังลูกโต
อยากให้บ้านดูสวยขึ้น โดดเด่น แต่กลมกลืน ไม่โดดแย่งความสวยของตัวบ้าน
SHADE SERIES > กัน UV
รุ่น Shade นี้ เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ทางชินโคไลท์ เพิ่งเปิดตัวล่าสุด และบอกเลยว่า HOT สุดในตอนนี้ เพราะด้วยคุณสมบัติกันความร้านได้ดีเยี่ยม แสงผ่านราวๆ 10-15% เวลาติดทำให้บ้านไม่มือทึบเหมือนวัสดุทึบแสงแบบอื่นๆ
- อย่างที่บอกรุ่นนี้แสงส่องผ่านได้ราวๆ 10-15% เท่านั้น คือ เวลาอยู่ใต้หลังคาที่มุงด้วยเจ้า Shade นี้แล้ว ถ้าเป็นตอนกลางคืน จะดูเหมือนทึบแสงเลย แต่ความเจ๋งมันอยู่ตรงนี้ครับพี่น้อง เวลาตอนเช้า แดดออก มันจะดูเรืองๆ แสง ละมุนตา ไม่ดูทึบอึดอัดเหมือนวัสดุทึบแสงตัวอื่นๆ อันนี้บอกเลย ว่า “ทีเด็ด💯”
- ในมุมความสวยงานแล้วชนะเลิศ เพราะติดตั้งเสร็จแล้ว จะดูเรียบง่าย ขาวนวลละมุนตา ออกสไตล์โมเดิร์นมินิมอลมากๆ ครับ
- รับรองว่า “เย็นกว่าเดิม และสะท้อนความร้อนได้มากถึง 50% เพราะลดร้อนได้ถึง 10 องศา สวยยาวนาน ทนทุกสภาวะ ผ่านการทดลองจากเครื่อง QUV Test มาแล้วด้วย”
- ใครอยากได้ร่มเงา แสงไม่ผ่านมาเผาตัว แต่ยังดูสว่างไม่อึดอัด ดูละมุนๆ จัดไปอย่าให้ช้า!
ข้อดีของรุ่น SHADE คือ
สะท้อนความร้อนและรังสี มากกว่า 50%
ลดอุณหภูมิใต้หลังคาได้ประมาณ 10 องศา
สวยยาวนาน สีไม่เปลี่ยน
สีสวยเข้ากับบ้าน
แสงผ่านได้เล็กน้อย ไม่มึดทึบ หรืออึดอัด
สีขาวมุก เงา สวย
เอาล่ะ ที่นี้เราจะมาสรุปให้ฟังกันอีกรอบ!
-
ใครอยากได้กันร้อน กันแดดดีๆ แต่ไม่อยากให้บ้านดูทึบแสงเกินไป ในราคามิตรภาพ –> Shade series เหมาะกับคุณ –> กัน UV
-
ใครเป็นสายชิลๆ อยากอยู่บ้านให้เหมือนไปคาเฟ่เก๋ๆ และชอบอะไรละมุนๆ แนวจบชาไป อ่าน Kinfolk ไป –> Superior series เหมาะกับคุณ –> กัน UV
-
ใครอยากเห็นท้องฟ้า เห็นก้อนเมฆ กันแดด กัน UV กัน Infrared และชอบตัวท๊อป –> Heat Cut series เหมาะกับคุณ –> กัน UV และ Infrared
อ้างอิงข้อมูลจาก
- https://www.shinkolite.co.th/heatcut
- https://www.shinkolite.co.th/superior
- https://www.shinkolite.co.th/shade
–> https://www.maxspacesolution.com/blog/
–> หรือใครอยากทราบว่า SHINKOLITE ผลิตมาจากอะไร ใครเป็นผู้ผลิตแล้วล่ะก็ ไปต่อกันที่นี่เลย –> SHINKOLITE คือ?